[Notebook] การสร้างและการลบ RAID Array
สารบัญ
- [INTEL Platform] การสร้าง RAID Array
- [INTEL Platform] การลบ RAID Array
- [AMD Platform] การสร้าง RAID Array
- [AMD Platform] การลบ RAID Array
[INTEL Platform] การสร้าง RAID Array
คำเตือน! โปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อสร้าง RAID Array ข้อมูลทั้งหมดของคุณในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจะถูกลบ
1. เข้าสู่การตั้งค่า Bioses: รีสตาร์ทแลปท็อปของคุณจากนั้นกด <F2> ระหว่างกระบวนการ POST (Power-On Self-Test), จะเข้าสู่การกำหนดค่า Bioses ของโน้ตบุ๊คของฉันได้อย่างไร
2. เมื่อคุณเข้าสู่การตั้งค่า Bioses การกำหนดค่าระบบแล็ปท็อปจะแสดงดังภาพด้านล่าง จากนั้นกด <F7> เพื่อเข้าสู่ [Advanced Mode]
3. ในหน้า [Advanced Mode] เลือก [Intel(R) Rapid Storage Technology] จากนั้นกด <Enter>
4. ในหน้า [Intel(R) Rapid Storage Technology] เลือก [Create RAID Volume] จากนั้นกด <Enter>
5. ในหน้า [Create RAID Volume] ตั้งค่า RAID Volume ของคุณที่ [Name]、[RAID Level]、[Select Disk]、[Strip Size] และ [Capacity (MB)]
①[Name]: พิมพ์ชื่อ RAID Volume ของคุณ
②[RAID Level]: เลือกระดับ RAID
③[Select Disk]: เลือกดิสก์ที่คุณต้องการสร้าง RAID โดยเลือก [X]
④[Strip Size]: เลือกขนาด RAID Strip Size จาก 4 KB ถึง 128 KB
⑤[Capacity (MB)]: ใส่ RAID Capacity และค่าเริ่มต้นคือค่าสูงสุด
6. หลังจากการตั้งค่าเสร็จสิ้น เลือก [Create Volume] จากนั้นกด <Enter> เพื่อสร้าง และกลับไปที่หน้า [Intel(R) Rapid Storage Technology]
7. ขั้นตอนสุดท้าย กด <F10> เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงและออกจากการตั้งค่า Bioses
8. หลังจากสร้างหรือลบ RAID Array Volume คุณอาจต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการต่อไป
นี่คือตัวอย่างการติดตั้งเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 สำหรับการอ้างอิงของคุณ
[วิธีติดตั้ง Windows 10 หากคุณมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง Windows 10?(แบบUSB)]
[ไม่พบไดรฟ์ระหว่างการติดตั้ง Windows 10]- ติดตั้งไดรเวอร์ IRST ด้วยตนเอง
[INTEL Platform] การลบ RAID Array
คำเตือน! โปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อลบ RAID Array ข้อมูลทั้งหมดของคุณในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจะถูกลบ
1. เข้าสู่การตั้งค่า Bioses: รีสตาร์ทแลปท็อปของคุณจากนั้นกด <F2> ระหว่างกระบวนการ POST (Power-On Self-Test), จะเข้าสู่การกำหนดค่า Bioses ของโน้ตบุ๊คของฉันได้อย่างไร จากนั้นกด <F7> เพื่อเข้าสู่ [Advanced Mode]
2. ในหน้า [Advanced Mode] เลือก [Intel(R) Rapid Storage Technology] จากนั้นกด <Enter>
3. ในหน้า [Intel(R) Rapid Storage Technology] เลือก RAID Volume ที่คุณต้องการลบ จากนั้นกด <Enter>
4. เลือก [Delete] จากนั้นกด <Enter>
5. ทันทีที่เลือก [Yes] RAID Volume จะถูกลบ และจะกลับสู่หน้า [Intel(R) Rapid Storage Technology]
6. หลังจากสร้างหรือลบ RAID Array Volume คุณอาจต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการต่อไป
นี่คือตัวอย่างการติดตั้งเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 สำหรับการอ้างอิงของคุณ
[วิธีติดตั้ง Windows 10 หากคุณมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง Windows 10?(แบบUSB)]
[ไม่พบไดรฟ์ระหว่างการติดตั้ง Windows 10]- ติดตั้งไดรเวอร์ IRST ด้วยตนเอง
[INTEL Platform] คำถามที่พบบ่อย
ถาม1: ทำไมหน้าการตั้งค่า [Advanced Mode] ของฉันไม่มี [Intel(R) Rapid Storage Technology]?
ตอบ1: กรุณาดำเนินการตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อเปิด [Intel(R) Rapid Storage Technology]
i, ในการตั้งค่า [Advanced Mode], เลือก [VMD Setup Menu] จากนั้นกด <Enter>
หากไม่มี [Enable VMD Controller] นั่นหมายถึงไม่รอบรับฟังก์ชันดังกล่าว
Ii, ในการตั้งค่า [VMD Setup Menu] กรุณาเปลี่ยนจาก [Enable VMD Controller] เป็น [Enabled] จากนั้นกด <F10> เพื่อบันทึกและออกจากหน้าการตั้งค่า เพื่อเสร็จสิ้นการเปิด IRST
[AMD Platform] การสร้าง RAID Array
คำเตือน! โปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อสร้าง RAID Array ข้อมูลทั้งหมดของคุณในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจะถูกลบ
1. เข้าสู่การตั้งค่า Bioses: รีสตาร์ทแลปท็อปของคุณจากนั้นกด <F2> ระหว่างกระบวนการ POST (Power-On Self-Test), จะเข้าสู่การกำหนดค่า Bioses ของโน้ตบุ๊คของฉันได้อย่างไร
2. เมื่อคุณเข้าสู่การตั้งค่า Bioses การกำหนดค่าระบบแล็ปท็อปจะแสดงดังภาพด้านล่าง จากนั้นกด <F7> เพื่อเข้าสู่ [Advanced Mode]
3. ในหน้า [Advanced Mode] เลือก [RAIDXpert2 Configuration Utility] จากนั้นกด <Enter>
4. ในหน้า [RAIDXpert2 Configuration Utility] เลือก [Physical Disk Management] จากนั้นกด <Enter>
5. ในหน้า [Physical Disk Management] เลือก [Select Physical Disk Operations] จากนั้นกด <Enter>
6. ในหน้า [Select Physical Disk Operations] เลือก [Initialize Disk] จากนั้นกด <Enter>
7. ในหน้า [Initialize Disk] เลือกดิสก์ที่คุณต้องการใน [Select Physical Disk to Initialize] และสลับเป็น [On] จากนั้นเลือก [OK]
8. ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง และเลือก [Yes] เพื่อเพื่อดำเนินการ จากนั้นกลับสู่หน้า [Select Physical Disk to Initialize] หลังจากเสร็จสิ้น
9. กรุณากลับไปที่หน้า [RAIDXpert2 Configuration Utility] และเลือก [Array Management] จากนั้นกด [Enter]
10. ในหน้า [Array Management] เลือก [Create Array] จากนั้นกด <Enter>
11. ในหน้า [Create Array] ด้านล่างของ [Select RAID Level] เพื่อเลือก RAID Level และเลือก [Select Physical Disk] จากนั้นกด <Enter>
12. ในหน้า [Select Physical Disk] เลือกสลับ storage disk เป็น [ON] หรือ [Check All] ด้านล่างของ [Select Media Type] จากนั้นเลือก [Apply Changes]
13. ในหน้า [Create Array] ตั้งค่า Array Parameters ของคุณ [Array Size]、[Array Size Unit]、[Select Cache Tag Size]、[Read Cache Policy] และ [Write Cache Policy].
①[Array Size]: ป้อนขนาดอาร์เรย์ที่ต้องการ และค่าเริ่มต้นคือสูงสุด
②[Array Size Unit]: เลือกหน่วยขนาดอาร์เรย์ที่ต้องการ
③[Select Cache Tag Size]: เลือกขนาดแท็กแคชตั้งแต่ 64 KB ถึง 256 KB
④[Read Cache Policy]: เพื่อเลือกความต้องการอ่านนโยบาย ยูทิลิตีการกำหนดค่าไม่มีแคชและแคชการอ่าน
⑤[Write Cache Policy]: เพื่อเลือกนโยบายการเขียนความปรารถนา ยูทิลิตีการกำหนดค่าไม่มีแคชและแคชเขียนกลับ
14. หลังการตั้งค่าทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย เลือก [Create Array] จากนั้นกด <Enter> คีย์เพื่อสร้างอาร์เรย์ RAID
15. เสร็จแล้ว กด <F10> เพื่อบันทึกความเปลี่ยนแปลงและออกจากหน้าการตั้งค่า Bioses
16. หลังจากการสร้างหรือลบ RAID Array คุณอาจต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการต่อไป
นี่คือตัวอย่างการติดตั้งเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Windows 10
[วิธีติดตั้ง Windows 10 หากคุณมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง Windows 10?[แบบUSB]]
ระหว่างการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 หากต้องการไดรเวอร์ AMD RAID (SATA, NVMe RAID) โปรดดูที่ Link.
[AMD Platform] การลบ RAID Array
ข้อควรระวัง! โปรดใช้ความระมัดระวังในการลบ RAID Array, ข้อมูลทั้งหมดของคุณจะถูกลบทั้งหมด
1. ไปที่การตั้งค่า Bioses : รีสตาร์ทเครื่องและกด <F2> ขณะ POST (Power-On Self-Test), จะเข้าสู่การกำหนดค่า Bioses ของโน้ตบุ๊คของฉันได้อย่างไร, จากนั้นกดปุ่ม <F7> เพื่อทำการเข้าสู่หน้า [Advanced Mode].
2. ในหน้า [Advanced Mode] , เลือก [RAIDXpert2 Configuration Utility] จากนั้นกดปุ่ม <Enter>.
3. ในหน้า [RAIDXpert2 Configuration Utility] , เลือก [Array Management] จากนั้นกดปุ่ม <Enter>
4. ในหน้า [Array Management], เลือก [Delete Array] จากนั้นกดปุ่ม <Enter>.
5. ในหน้า [Delete Array], เลือก RAID Array จากนั้นสลับ [ON] หรือ [Check All], และเลือก [Delete Array(s)] จากนั้นกดปุ่ม <Enter> เพื่อทำการลบ.
6. โปรดยืนยันข้อมูลทั้งหมดในหน้า [Warning] , จากนั้นสลับรายการ [On] เพื่อ [Confirm]. ในท้ายที่สุด กด [Yes] เพื่อทำการลบ.
7. หลังจากสร้างหรือลบ RAID Array แล้ว คุณอาจต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการในลำดับถัดไป
นี่คือตัวอย่างการติดตั้งเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Windows 10
[วิธีติดตั้ง Windows 10 หากคุณมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง Windows 10?[แบบUSB]]
ระหว่างการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 หากต้องการไดรเวอร์ AMD RAID (SATA, NVMe RAID) โปรดดูที่ Link.
[AMD Platform] คำถามที่พบบ่อย
Q1: ทำไมหน้า Set up ของ [Advanced Mode] ไม่มีหัวข้อ [RAIDXpert2 Configuration Utility] ?
A1: โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อเปิดใช้งาน [RAIDXpert2 Configuration Utility].
i, ในการตั้งค่า [Advanced Mode] เลือก [SATA Configuration] จากนั้นกดปุ่ม <Enter>
ii, ในหน้าการตั้งค่า [SATA Configuration] ให้สลับสวิทซ์ [SATA Mode Selection] ไปที่ [RAID], จากนั้นกดปุ่ม <F10> เพื่อทำการบันทึกการตั้งค่าและออกจากการตั้งค่าเพื่อใช้งาน [RAIDXpert2 Configuration Utility].
หากไม่มีหัวข้อ [RAID] นั้นหมายความว่าฟังก์ชั่นนี้ไม่รองรับ.